
ฝุ่นละอองในอากาศกลับมาอีกครั้ง และดูเหมือนครั้งนี้มันจะปกคลุมประเทศไทยไปสักพักเลยแหละ

หน้ากาก N95 เป็นหน้ากากชนิดพิเศษที่ช่วยกรองสารเคมี และมลพิษในอากาศ
1. ช่วยป้องกัน และกรองมลพิษในอากาศก่อนที่จะเข้าสู่ระบบปอดในร่างกายของเรา หน้ากากชนิดนี้ได้ถูกยืนยันว่า สามารถป้องกันฝุ่นประเภทนี้โดยเฉพาะ
2. ได้ศึกษามาแล้วว่า หน้ากาก N95 มีวัสดุที่ช่วยป้องกัน และกรองมลพิษ จากฝุ่นที่มีขาดเล็กมาก ๆ กรองได้ถึง 0.3 ไมครอน อีกทั้งยังป้องกันฝุ่นในอากาศ ได้ถึง 95%
ผู้ที่มีปัญหาด้านการหายใจทางที่ดีควรศึกษาวิธีการใช้โดยละเอียด เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี และถูกต้อง
2. ดูแลรักษาผิวของคุณ
นอกจากการระมัดระวังผิวโดยการทำความสะอาด และบำรุงด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังต้องบำรุงผิวหน้าด้วยการมาร์ค
เพื่อบำรุงผิวในชั้นลึกลงไป ป้องกันการเกิดปัญหาผิวอันเนื่องมาจากผลพิษทางอากาศ และฝุ่นละออง
DIY การป้องกันในแบบง่าย ๆ
ต้มน้ำในหม้อจนเดือด และใส่น้ำมันสกัดจากใบสะระแหน่ลงไป คนจนมีกลิ่นอ่อน ๆ จากนั้นสูดกลิ่นเข้าลึก ๆ ไอน้ำจากน้ำเดือดและน้ำมันสกัดจากใบสะระแหน่ จะช่วยบำรุงผิวของคุณ

เรามาดูกันว่า อาหารประเภทไหนบ้างที่จะช่วยป้องกันผิวของเราอีกแรง
วิตามินซี – ช่วยป้องกันร่างกายจากทำลายโดยมลพิษ หรือฝุ่นละอองโมเลกุลเล็ก ๆ เนื่องจากโมเลกุลชนิดนี้ถูกขนานนามว่าเป็นตัวทำลายเซลของร่างกายอาหารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ – เช่นเดียวกับผิวของคุณ อาหารประเภทต่อต้านอนุมูลอิสระ (เบอร์รี่ หัวผักกาด ชาเขียว เมล็ดเจีย) จะช่วยทำให้ผิวของ
- คุณ ยากต่อการถูกทำลายอย่างง่ายดายจากอนุภาคของฝุ่นควัน
ผักใบเขียว – มีวิตามินหลายชนิด แร่ธาตุบริสุทธิ์ สารต้านอนุมูลอิสระ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยบำรุงร่างกายให้สุขภาพดี และสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค
DIY วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยป้องกัน
วิธีนี้จะช่วยคุณแก้ปัญหาเกี่ยวกับลำคอ ที่มีสาเหตุมาจากฝุ่นละออง โดยการสับกระเทียม และแยกเปลือกออกมา จากนั้นใส่น้ำผึ้งลงไปในกระเทียมที่สับแล้ว
และผสมให้เข้ากัน ปิดให้แน่น และทิ้งไว้ข้ามคืน (ไม่จำเป็นต้องแช่ในตู้เย็น) หลังจากนั้นในตอนเช้า ให้รับประทานตอนที่กระเพาะว่าง และระหว่างวันจนหมด
อีกวิธีหนึ่งคือ ใส่น้ำส้มสายชู ประมาณ 2-3 ช้อน ลงในน้ำที่ค่อนข้างอุ่น และดื่มในตอนเช้า หรือตอนที่มีอาการ ความเป็นกรดของน้ำส้มสายชูจะช่วยละลายเสมหะ
ภายในลำคอ และทำให้รู้สึกโล่งขึ้น
4. ป้องกันดวงตาของเราจากฝุ่น
ผิว และปอดของคุณ ไม่ใช่แค่สองสิ่งที่คุณต้องป้องกัน สิ่งหนึ่งที่สำคัญพอ ๆ กันคือ ดวงตา โดยเฉพาะคนที่ชอบใส่คอนแทคเลนส์
ตัวช่วยคือ ให้หยอดน้ำตาเทียมอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (หรือตอนที่จำเป็น) ซึ่งน้ำตาเทียมจะเปรียบเสมือนเป็นน้ำตาธรรมชาติที่จะช่วยล้างฝุ่น
หรือสิ่งสกปรกที่ปกคลุมอยู่รอบ ๆ ดวงตานั่นเอง
5. ต้นไม้ที่ช่วยทำให้อากาศสดชื่น
ทุกวันนี้ เราก็ยังหนีไม่พ้นมลพิษทางอากาศ ในหลาย ๆ ช่วง บางคนอาจคิดว่าการหลบอยู่ภายในบ้าน อาจจะเลี่ยงได้
แต่จริง ๆ แล้วคิดผิดนะคะ เพราะภายในบ้าน หรืออาคารก็สามารถเป็นที่ที่มีมลพิษทางอากาศเช่นกัน
การปลูกต้นไม้ หรือหาต้นไม้มาไว้ในบ้านก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งองค์กรระดับโลกอย่าง NASA ได้ค้นพบชนิดของพืช หรือต้นไม้ ที่สามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้านได้
รวมถึงให้อากาศออกซิเจนอีกด้วย มาดูกันเลย
ต้นปาล์มขนาดเล็ก – เป็นต้นไม้ที่สร้างบริสุทธิ์ทั้งวัน โดยการเปลี่ยนจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นก๊าซออกซิเจน
ต้นลิ้นมังกร – จากชื่อก็น่าจะเดาได้นะคะ ว่าต้นนี้จากช่วยกำจัดมลพิษต่าง ๆ ซึ่งต่างจากต้นไม้อื่น ๆ คือ จะไม่ดูดก๊าซออกซิเจนไปจากเราตอนเรานอนหลับนั่นเอง
ต้นพลูด่าง – ต้นนี้จะช่วยกรองอากาศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ข้อแนะนำ: ควรมีต้นไม้อย่างน้อย 1 ต้นต่อบ้านขนาด 100 ตารางเมตร
6. เครื่องกรองอากาศอัตโนมัติเพื่อน ๆ อย่าสับสนระหว่างเครื่องกรองอากาศ กับเครื่องให้ความชื้น เพราะคุณสมบัติของเครื่องกรองอากาศ และระบบการทำงานไม่เหมือนกัน ดังนี้
ไส้กรอง True HEPA (ประสิทธิภาพที่แท้จริงของการกรองอากาศ) – ไส้กรองชนิดนี้สามารถกำจัดฝุ่นได้มากสุดถึง 99.97% โดยเฉพาะฝุ่นขนาดอนุภาค 0.3 µm.
อย่าเสียเงินไปกับไส้กรองธรรมดา มันจะดียิ่งขึ้นหากลงทุนกับไส้กรองชนิดนี้
ไส้กรองคาร์บอน – สามารถช่วยกรองสารเคมีในอากาศ อย่างเช่น สารเคมีจากสเปรย์ฆ่าเชื้อต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากการใช้งานอีกด้วย
7. ออกกำลังกาย – ภายในห้องนั่งเล่นแทนการออกกำลังกายนอกบ้านไม่อยากเชื่อเลยใช่ไหมคะ ว่าจำนวนคนที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งมีเยอะแค่ไหน ขนาดช่วงที่มีฝุ่นในอากาศก็ยังไม่เว้น การออกกำลังกายด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นสิ่งที่ด
ช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ แต่ในช่วงที่อากาศมีมลพิษมันจะมีข้อเสียมากกว้าข้อดีนะคะ
Dr. Steve Yang ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ จาก ร.พ. Raffles กล่าวว่า โอกาสที่จะทำเกิดภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว เกิดขึ้นในระหว่างการออกกำลังกายถึง 5 เท่า
ถ้าเทียบกับตอนที่ร่างกายกำลังพักผ่อน โดยปกติแล้ว ในช่วงที่ในอากาศมีค่าของฝุ่นเกินกว่ามาตรฐาน ปอดจะสามารถรับก๊าซออกซิเจนได้น้อยลง
ในระหว่างการออกกำลังกาย ทางแก้ที่ดีคือให้หายใจลึก ๆ ภายในที่ปิด ไม่ว่าจะบ้าน ภายในบ้าน หรืออาคาร
สำหรับการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องภายในบ้าน อย่างเช่น ท่าเบอร์พี (burpees) การทำท่าแพลงค์ (Planks) ท่ากระโดดกางแขน (star jumps)
ท่าวิดพื้น (push-ups) ท่าลุกนั่ง (sit-up) หรือไม่ว่าจะเป็นการเทรนแบบจำกัดการออกกำลังกายก็ตาม หรือถ้ายังไม่เพียงพอก็สามารถเรียนรู้วิธีการออกกำลังกายภายในบ้าน
จากช่องทาง YouTube ก็ได้เหมือนกันนะคะ